|
|
ประกันอัคคีภัย (FIRE INSURANCE) |
รายละเอียดและเบี้ยประกันอัคคีภัยแต่ละบริษัท
เปรียบเทียบประกันภัยอัคคีภัยมาตรฐานกับแบบแพ็คเกจ
LMG ประกันภัย / ประกันภัยอัคคีภัย - HOME SECURE PLUS
LMG ประกันภัย / ประกันภัยอัคคีภัย - HOME VALUE
ทิพยประกันภัย / ประกันภัยอัคคีภัย - บ้านทิพย ยิ้มได้ + ภัยพิบัติ
|
ความสำคัญของการเอาประกันอัคคีภัย
การประกันอัคคีภัย เป็นการประกันวินาศภัยประเภทหนึ่ง ผู้เอาประกันภัยจะได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีทรัพย์สินที่เอาประกันภัยได้รับความเสียหาย การทำประกันอัคคีภัยจึงสามารถบรรเทาความเสียหายและสามารถลดภาระความเดือดร้อนด้านการเงินได้ในระดับหนึ่ง
ความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย
การประกันอัคคีภัยให้ความคุ้มครองการสูญเสียหรือเสียหายต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัย ตามหลักการประกันภัยทรัพย์สินที่ผู้เอาประกันภัยจะเอาประกันภัยได้นั้น หมายความว่าผู้เอาประกันภัยต้องมีส่วนได้เสีย เมื่อทรัพย์สินนั้นได้รับความเสียหาย ซึ่งก็คือเจ้าของทรัพย์สินนั่นเอง หรืออาจจะเป็นผู้รับผิดชอบในฐานะผู้รักษาทรัพย์ก็ได้ อันได้แก่
1. ตัวอาคาร (สิ่งปลูกสร้างไม่รวมฐานราก)
2. เฟอร์นิเจอร์และเครื่องติดตั้งตรึงตรา
3. เครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ
4. สต็อกสินค้า
ประกันอัคคีภัยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
|
1. ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย
ความคุ้มครอง
- ไฟไหม้
- ฟ้าผ่า
- ภัยระเบิด
- ภัยจากยวดยานภาหนะ (รวมถึงช้าง ม้า วัว ควาย)
- ภัยอากาศยาน
- ภัยเนื่องจากน้ำ (ไม่รวมถึงภัยน้ำท่วม)
|
2. ประกันอัคคีภัยสำหรับธุรกิจ
ความคุ้มครอง
- ไฟไหม้
- ฟ้าผ่า
- การระเบิดจากแก๊สหุงต้มที่ใช้สำหรับทำแสงสว่าง หรือเพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น
|
|
ภัยที่สามารถซื้อเพิ่มเติมได้ |
1. ภัยจากลมพายุ
4. ภัยจากยวดยานภาหนะ
7. ภัยจากน้ำท่วม
10. ภัยระอุ
|
2. ภัยจากระเบิด
5. ภัยจากควัน
8. ภัยเนื่องจากน้ำ
11. ภัยจากลูกเห็บ
|
3. ภัยจากอากาศยาน
6. ภัยแผ่นดินไหว
9. ภัยจลาจลและนัดหยุดงาน
|
|
12. ภัยจากการกระทำอันป่าเถื่อน หรือ การกระทำอันมีเจตนาร้าย
13. ภัยต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า (กำหนดทุนประกันจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ตัวที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นหลัก)
|
จำนวนเงินเอาประกันภัยที่เหมาะสม
เงื่อนไขการรับประกันของกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย มีเงื่อนไขอันหนึ่งว่าด้วยการประกันภัยทรัพย์สินต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ให้ถือว่าผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับประกันภัยเองในส่วนที่แตกต่าง ต้องรับภาระส่วนเฉลี่ยการเสียหายตามส่วนทุก ๆ รายการ ผู้เอาประกันภัยจึงควรให้ความสำคัญในมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สินที่เอาประกันภัย แต่มิใช่เอาประกันเกินมูลค่าความเป็นจริง เพราะการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจะชดใช้ตามความเสียหายที่เป็นจริง ณ.วันที่เกิดเหตุเท่านั้น
จำนวนเงินที่แนะนำให้เอาประกันภัย ไม่ควรต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินที่แท้จริง เพราะบริษัทจะคำนวณชดใช้ค่าสินไหมให้กับผู้เอาประกันภัยตามความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับภาระส่วนเฉลี่ยตามเงื่อนไข
ขั้นตอนการขอเอาประกันอัคคีภัย
ในการขอเอาประกันอัคคีภัย เบื้องต้นให้ผู้ขอเอาประกันภัยกรอกข้อมูลในใบคำขอเอาประกันอัคคีภัยเสียก่อน ข้อมูลที่บริษัทต้องทราบประกอบด้วย
- ชื่อผู้ขอเอาประกันภัย ซึ่งต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สิน
- สถานที่ตั้งทรัพย์สินที่ประสงค์ขอเอาประกันภัย
- การใช้สถานที่หรือประกอบกิจการประเภทใด
- ลักษณะสิ่งปลูกสร้างเป็นอย่างไร
- จำนวนเงินเอาประกันภัย และรายละเอียดทรัพย์สินที่ประสงค์ขอเอาประกันภัย
- ต้องการคุ้มครองภัยเพิ่มพิเศษ นอกเหนือจากความคุ้มครองพื้นฐานหรือไม่
ตรวจสอบกรมธรรม์ ก่อนชำระเบี้ยประกันภัย
สัญญากรมธรรม์ประกันอัคคีภัยเป็นนิติกรรมประเภทหนึ่ง เมื่อผู้เอาประกันภัยได้รับกรมธรรม์ พึงพิจารณาว่ารายละเอียดถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้องให้แจ้งบริษัท หรือตัวแทนบริษัทแก้ไขให้ถูกต้องเสียก่อน และกรมธรรม์ควรจัดเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เพราะจำเป็นต้องใช้กรณีเกิดความเสียหายเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
ข้อแนะนำในการซื้อประกันอัคคีภัย
1. เมื่อเกิดความเสียหายจากเพลิงไหม้จะต้องแจ้งให้บริษัททราบโดยเร็ว รวมถึงแจ้งรายละเอียดทรัพย์สินที่สูญเสียหรือเสียหาย รวมถึงมูลค่าความเสียหายของทรัพย์สินนั้นๆ
2. หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงการค้าหรือการผลิต การย้ายทรัพย์สินที่เอาประกันภัยที่ได้ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์จะต้องแจ้งให้บริษัททราบ
3. ถ้าหากมีการเปลี่ยนมือของทรัพย์สินที่เอาประกันภัยที่ไม่ใช่โดยทางพินัยกรรมหรือโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมายไปให้ผู้อื่น ผู้เอาประกันภัยจะต้องแจ้งการโอนให้บริษัททราบ เพื่อประโยชน์ในความคุ้มครองที่จะโอนตามไปด้วย
4. หากเลือกซื้อความคุ้มครองเป็นระยะเวลานานเบี้ยประกันจะมีราคาถูกมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากอัตราเบี้ยประกันภัยดังต่อไปนี้
|
1 ปี คิดเบี้ยประกันภัย 100%
2 ปี คิดเบี้ยประกันภัย 175%
3 ปี คิดเบี้ยประกันภัย 250%
|
|
|
|
|
|
|
|
|